By Arnon Puitrakul - 14 พฤศจิกายน 2018
ช่วงนี้รีวิวออกถี่ซะเหลือเกิน เดี๋ยวมันจะออกมาเรื่อย ๆ เพราะเราไปช๊อปที่งาน Commart มาได้ของเล่นมาหลายชิ้นอยู่ วันนี้ให้คิวน้องเล็กกันก่อนอย่าง External SSD จาก WD ในรุ่น My Passport SSD
เราขออนุญาติไม่แกะกล่องละกัน เพราะ ณ ตอนที่เราเขียน เราใช้ไปสักพักละ ไม่ได้ถ่ายรูปตอนแกะไว้ เพราะตื่นเต้นอยู่ เอาละ เรามาเริ่มที่ขนาดและหน้าตากันก่อน
WD My Passport SSD เป็น External SSD ที่มีขนาดเล็กและเบามาก ๆ เบาจนตกใจเลย คือเราเอาเอามันมาถือในมือ จากรูปคือมือเราเองมันเล็กมากจริง ๆ และอีกหนึ่งข้อสังเกตคือ รูปร่างของมันนั้นไม่ใช่เกือบ ๆ จตุรัสเหมือน My Passport และ My Passport Ultra เลย แต่เป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าที่ถ้าถือแนวตั้งก็จะแคบมาก ๆ เพราะพวกนั้นมันฟิคกับขนาดของ HDD ขนาด 2.5 นิ้ว แต่ด้วยความที่เป็น SSD จะออกแบบให้เป็นรูปร่างได้ค่อนข้างง่ายกว่า HDD ธรรมดา
ลักษณะการออกแบบก็จะล้อเหมือนกับตัวรุ่นพี่อย่าง My Passport อื่น ๆ มาหมด นั่นคือ ด้านบนเป็นพลาสติกด้าน และด้านล่างเป็นพลาสติกสีเทา ถ้ามือมัน ๆ หน่อยจับแล้วมันจะเป็นลอยนิ้วมือนิดหน่อย แต่เช็ดออกได้ มีลายให้ดูสวยงาม ด้านหน้าข้างบนก็จะมีตราของ WD เป็นเงา ๆ อยู่
กลับไปที่ด้านหลังก็จะมีเขียนว่าเป็น My Passport SSD และ Bar Code อะไรก็ว่ากันไป ไม่มีอะไร ด้านข้างและบนก็เช่นกัน
ด้านล่างทางขวา ก็จะมี Port USB-C สำหรับเชื่อมต่อออกไปที่อุปกรณ์อยู่
นอกจากในกล่องก็ยังมีสาย USB-C เป็น USB-C อยู่ 1 เส้นที่ค่อนข้างหนามาก ๆ ทนทานแน่นอน (สำหรับใครที่ไม่มี USB-C บนเครื่องตัวเองละก็ ทาง WD ก็ถามหัวแปลงจาก USB-C เป็น USB-A มาอีกด้วย)
การใช้งานก็คือ เราไม่ได้ซื้อมาเก็บข้อมูลแบบใหญ่ ๆ อันนี้เราเลือกซื้อมาเพราะเราเอามาเก็บงานที่กำลังทำอยู่ อันเนื่องมาจากเนื้อที่ในเครื่อง Mac เนี่ยค่อนข้างแพง เพราะฉะนั้น การซื้อ Mac ที่มาพร้อมกับ SSD ขนาดใหญ่มาก ๆ ก็ไม่น่าเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์สักเท่าไหร่
วิธีการใช้งานนั้นง่ายมาก ๆ เพียงแค่เราเอาสาย USB-C มาเสียบระหว่างเครื่องกับตัว SSD เข้าด้วยกัน แค่นี้เองก็ใช้ได้แล้ว
ขนาดที่เอามาทดลองเป็นขนาด 256 GB เท่านั้น ก็ลองกันง่าย ๆ เลยโดยการเอา My Passport SSD เสียบเข้า Macbook Pro 2018 โดยใช้ USB-C โดยตรง ไม่ได้ผ่านตัวแปลงใด ๆ และใช้โปรแกรม Blackmagic Disk Speed Test ก็ได้ความเร็วราว ๆ 500 MB/s อ่าน และ 129 MB/s เขียน ก็ถือว่า ไม่เลวเลยนะสำหรับราคาที่เราซื้อมา ส่วนเรื่องความร้อนก็ไม่ได้ร้อนอะไรจนน่ากลัว
ด้วยความที่มันเป็น USB-C และเป็น SSD ที่กินไฟต่ำ ทำให้เราสามารถเอามันมาเสียบใช้บนโทรศัพท์ได้เลย โคตรดีย์ แต่ถ้าจะเอามาใช้ในโทรศัพท์จริง ๆ แนะให้เปย์โทรศัพท์ให้มันเป็นรุ่นท๊อปหน่อย ๆ ที่มี Memory แบบ UFS2.1 ขึ้นไป ก็จะเข้ากันได้อย่างดี
ก็เป็นรีวิวสั้น ๆ ของ WD My Passport SSD ก็ถ้าใครที่มีงบหน่อย และต้องการที่เก็บข้อมูลคุณภาพสูงสักตัว เจ้าตัวนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีตัวนึงในการเก็บข้อมูลอยู่เหมือนกัน ใช้แล้วจะรักเลย ตอนนี้เราใช้ SSD ตัวนี้เป็น Hot Storage สำหรับงานที่ยังไม่เสร็จ พอเสร็จแล้วก็เอาไปไว้ใน My Passport ที่เป็น External Harddisk ธรรมดาเป็น Cold Storage ก็จะช่วยประหยัดตังค์ค่าซื้อ SSD ไปเยอะ
หลายปีที่ผ่านมาพยายามหาโปรแกรมอื่นมาแทน Lightroom เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่าย Subscription จนวันนี้เรามาเจอแล้ว ตัวเต่งเข้ามาที่หนึ่งตอนนี้เลย กับ Photomator จะแทนได้มั้ย อ่านได้ในรีวิวนี้เลย...
ก่อนหน้านี้เราตามหาระบบอัดเสียงที่เข้ากับการทำงานหลาย ๆ แบบของเรามานานมาก ๆ ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงานสูง ต้องการให้รองรับกับอุปกรณ์หลาย ๆ ชิ้นได้ง่าย วันนี้เราเจอแล้วกับ DJI Mic 2 จะเป็นยังไงไปดูได้ในรีวิวนี้เลย...
ไม่น่าเชื่อว่า เวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้ ตอนนี้น้องไฟท์ หรือรถ ORA Good Cat มาอยู่กับเรา 2 ปีแล้ว วันนี้เราจะมารีวิวให้อ่านกันว่า 2 ปีที่ผ่านมา อะไรที่เป็นปัญหา และ ในรอบปีที่ผ่านมา เราเสียค่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่กับรถคันนี้ไปบ้าง เผื่อจะเป็นข้อมูลสำหรับหลาย ๆ คน...
ก่อนหน้านี้ เราใช้ Wireless Microphone ถ่ายในห้องนอนเล็ก ๆ ของเรา ซึ่งต้องทั้งชาร์จแบต และเสียบเปิด เสียเวลา Setup พอสมควร ทำให้มองหาอะไรที่ง่ายกว่านั้น จนมาเจอกับ Sony ECM-M1 Shotgun Microphone ตัวเด็ดจาก Sony จะเป็นยังไงอ่านได้ในรีวิวนี้เลย...